ในยุคสมัยที่ทุกอย่างล้วนอยู่ในโลกออนไลน์ การทำธุรกิจก็ล้วนแล้วแต่ต้องปรับตัวให้ทันโดยเฉพาะการโฆษณาในพื้นที่ใหญ่ ๆ กว้างขวางของ Google หรือที่เรียกกันว่า Google Ads ที่มีทั้งหมดอยู่ 5 แบบให้เลือกใช้ ส่วนจะใช้แบบไหนก็ต้องใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของตัวเองโดยมีดังนี้
-
Google Ads แบบ Search Ads
เป็นประเภทที่นิยมกันมากที่สุด เหมาะสำหรับธุรกิจทุกประเภทมักจะใช้กันในบทความต่าง ๆ เช่นขายสินค้า บริการ การหาวิธีแก้ปัญหา การหาข้อมูลต่าง ๆ โดยจะใช้คำที่คนนิยมเสิร์ชหาหรือที่เรียกกันว่าคีเวิร์ด มาใส่ในบทความนั้น ๆ โดยส่วนที่จะใส่ก็อย่าง Headline และ Description เมื่อมีคนค้นหาคำที่ตรงกับเรา Google ก็จะแสดงหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงเนื้อหาธุรกิจของเราด้วย
-
Google Ads แบบ Display Ads
เหมาะสำหรับธุรกิจ ที่มีภาพถ่ายสินค้า โดยมักจะไปแสดงผลในช่องทางต่าง ๆ ที่เป็น Partner กับ Google ที่อนุญาตให้ลงโฆษณาเช่น Application, YouTube, Website และ Gmail โดยจะแสดงผลเป็นรูปภาพเท่านั้น ซึ่งเราก็สามารถทำรูปภาพที่มีข้อความ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราได้ นอกจากนี้เรายังสามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น เพศ อายุ ความสนใจ
-
Google Ads แบบ Youtube Ads
เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีคอนเทนต์เป็นวีดีโอที่ใช้โฆษณาบนYoutube Ads หรือ Video Ads โดยที่เราสามารถเลือกรูปแบบและตำแหน่งของการแสดงผล และเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ Google จะแสดงโฆษณากรณีที่มีคนค้นหาคีย์เวิร์ดของธุรกิจเราบน Youtube นั่นเอง
-
Google Ads แบบ Shopping Ads
เหมาะสำหรับผู้ที่มีธุรกิจโดยจะแสดงผลแบบการ์ดรายการสินค้าประกอบด้วย สินค้า ชื่อสินค้า ราคา ในรูปแบบของการ์ดรายการสินค้าซึ่ง และต้องมีลิงก์ของเว็บไซต์ที่สามารถคลิกเข้าไปซื้อได้ทันที โดยเราก็ปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม Shopping Ads จะเหมาะกับธุรกิจที่มีสินค้ามาก ๆ และต้องมี E-Commerce Website ต้องติดตั้งระบบตะกร้าสินค้า รวมไปถึงต้องสมัคร Google Merchant Center ถึงจะสามารถทำโฆษณาได้
-
Google Ads แบบ App Ads
App Ads เหมาะสำหรับกลุ่มธุรกิจใหญ่ ๆ ที่แอปพลิเคชันเป็นของตัวเอง และต้องการให้คนโหลดใช้กันเยอะ ๆ สามารถใช้ได้ทั้งในระบบ IOS และ Android โดยโฆษณาปรากฏตาม Google Search, YouTube, Gmail และ Website ที่เป็น Partner กับ Google ซึ่งเราสามารถโปรโมทแอปพลิเคชันได้ทั้งแบบรูปภาพ และวิดีโอ
เป็นไงบ้าสำหรับ Google Ads ทั้ง 5 ประเภท โดยการยิงแอดแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันออกไปซึ่งหากเราทำธุรกิจก็สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม และเลือกให้เข้ากับธุรกิจของตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของเรามีคนรู้จักเยอะขึ้น ส่งผลให้ยอดขายสูงตามไปด้วย