อย่างที่ทุกคนทราบว่าอากาศเมืองไทยนั้น เรียกได้ว่าตลอดทั้งปีจะมีแค่ ร้อน กับร้อนมาก เพราะฉะนั้นเครื่องปรับอากาศในรถ หรือแอร์รถ จึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญของการขับรถ และมักจะทำหน้าที่หนักมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย ซึ่งถ้าหากแอร์ภายในรถเกิดไม่เย็น แอร์ภายฝนรถดันมีแค่ลมออกมา และไม่มีความเย็น ซึ่งอาจจะเกิดมาจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้
1. เครื่องกรองแอร์อุดตัน
สำหรับสาเหตุหลัก ๆ ที่จะทำให้แอร์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเลยนั่นก็คือ เครื่องกรองอากาศอุดตัน อาจเป็นเพราะฝุ่นที่จับตัวหนาหรืออาจเกิดจากการสะสมของคราบเชื้อราและคราบสกปรกต่าง ๆ ก็ได้ หากแอร์ไม่เย็น ลมมีกลิ่นอับ ก็เป็นไปได้ว่าจะเกิดจากสาเหตุนี้
2. ระบบไฟผิดปกติ
สำหรับแอร์ภายในรถ จำเป็นที่จะต้องทำงานผ่านระบบไฟฟ้าภายในรถโดยตรง เพราะฉะนั้นถ้าหากระบบไฟภายในรถเกิดเหตุขัดข้องขึ้นมา ก็จะส่งผลให้แอร์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะรถเก่าที่มีอายุการใช้งานมานานและการใช้งานรถในอุณหภูมิที่สูงจัดเสี่ยงเกิดปัญหานี้ได้บ่อยกว่ารถใหม่
3. น้ำยาแอร์รั่ว
น้ำยาแอร์ ถือเป็นปัจจัยหลักในการทำงาน ที่จะทำให้แอร์มีความเย็นฉ่ำ เพราะฉะนั้นถ้าหากรถคันไหนเกิดปัญหาน้ำยาแอร์รั่ว แรงดันภายในแอร์ก็จะลดลง ทำให้เวลาเปิดแอร์ในรถจะมีแต่ลมออกมา ไม่มีความเย็นหรือความฉ่ำ
4. แผงคอยล์ทำความเย็นชำรุด
แผงคอยล์แอร์รถจะติดตั้งอยู่บริเวณพัดลมระบายความร้อน ซึ่งจะทำหน้าที่ในการระบายความร้อนที่เกิดขึ้นมาจากน้ำยาแอร์ออกมา ซึ่งถ้าหากแผงคอยล์เกิดปัญหา เช่น แตก หัก เสียหาย หรือมีสิ่งเข้าไปอุดตัน ที่เป็นสิ่งที่รบกวนในการทำงาน ก็จะส่งผลโดยตรงต่อระบบการระบายอากาศภายในรถ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่ออากาศภายในรถได้
5. คอมเพรสเซอร์แอร์ชำรุด
หน้าที่สำคัญในการทำงานของ คอมเพรสเซอร์แอร์ ก็คือทำความเย็น เพราะฉะนั้นถ้าหาก คอมเพรสเซอร์ เกิดการชำรุด เสียหาย ก็จะส่งผลโดยตรงต่อความเย็นของแอร์ ที่จะทำให้มีเพียงแค่ลมออกมา ซึ่งสาเหตุของคอมเพรสเซอร์แอร์เสียนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย หากสงสัยว่าเป็นเพราะคอมเพรสเซอร์ต้องนำเข้าอู่เพื่อเช็กอาการจะดีที่สุด
ทั้งหมดนี่ก็คือสาเหตุหลักที่จะทำให้แอร์ภายในรถของคุณไม่เย็น ซึ่งถ้าหากรถใครที่มีปัญหาแอร์ไม่เย็นสามารถตรวจเช็คได้ด้วยตัวเอง เพราะถ้าหากเกิดตรวจสอบว่าพบปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็จะสามารถแก้ไข และซ่อมแซมได้อย่างทันที เพื่อเป็นการเพิ่มอายุการใช้งานของรถที่ยาวนานขึ้นได้