วิธีการปลูกผักชีทานเองที่บ้าน ปลอดภัย ทานได้ตลอดปี

“ผักชี” เป็นผักคู่ครัว คู่เมนูของไทย ไม่ว่าจะเป็นต้มยำ ยำ หรือใช้โรยหน้าอาหาร เพื่อให้ดูน่ารับประทานมากขึ้น แต่หลายคนมักเจอปัญหาว่าซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ก็เหี่ยวเน่า พออยากจะใช้ก็ไม่มี หากอยากแก้ปัญาเหล่านี้ลองมาปลูกผักชีไว้ทานเองที่บ้านกันคะ ปลูกง่าย ทานได้ตลอดปี

ประโยชน์ของการปลูกผักชีเองที่บ้าน

การปลูกผักชีเองที่บ้านมีข้อดีหลายอย่าง ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักเท่านั้น แต่ยังมั่นใจได้ในความปลอดภัยเพราะสามารถควบคุมการใช้สารเคมีได้ด้วยตนเอง การมีผักชีสด ๆ อยู่ในครัวช่วยให้สามารถใช้ได้ทันทีเมื่อปรุงอาหาร ทำให้มื้ออาหารมีรสชาติหอมสดใหม่ขึ้น

วัสดุและอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการปลูกผักชี

การปลูกผักชีไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์มากมาย สิ่งที่ต้องเตรียมมีดังนี้:

1.เมล็ดผักชี: เลือกเมล็ดผักชีคุณภาพดีจากร้านเกษตร หรือจะใช้เมล็ดจากผักชีแห้งที่ซื้อมาจากร้านค้าได้เช่นกัน

2.ดินปลูก: ควรเลือกใช้ดินร่วนผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เพื่อให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์และสามารถระบายน้ำได้ดี

3.กระถางปลูก: หากมีพื้นที่จำกัด สามารถใช้กระถางหรือภาชนะขนาดเล็กที่มีรูระบายน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำขัง

4.น้ำและที่ฉีดน้ำ: เพื่อใช้ในการรดน้ำและดูแลต้นผักชี

วิธีการปลูกผักชีง่าย ๆ ทีละขั้นตอน

1.การเตรียมเมล็ดผักชี: ก่อนการปลูก ควรแช่เมล็ดผักชีในน้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพื่อช่วยให้เมล็ดนิ่มและงอกง่ายขึ้น จากนั้นนำเมล็ดมาทุบเบา ๆ เพื่อแยกเปลือกออก ช่วยให้เมล็ดมีโอกาสงอกได้ดียิ่งขึ้น

2.การเตรียมดินและภาชนะปลูก: เติมดินปลูกลงในกระถางหรือภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วเกลี่ยดินให้เรียบ จากนั้นทำหลุมเล็ก ๆ ลึกประมาณ 0.5 เซนติเมตร โดยเว้นระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 5 เซนติเมตร

3.การหว่านเมล็ด: หยอดเมล็ดผักชีลงในหลุมที่เตรียมไว้ จากนั้นกลบดินบาง ๆ เพื่อป้องกันเมล็ดไม่ให้โดนลมหรือแสงแดดโดยตรง แล้วใช้มือกดเบา ๆ เพื่อให้เมล็ดติดกับดิน

4.การรดน้ำและดูแล: ควรรดน้ำเป็นประจำวันละ 1-2 ครั้ง แต่ไม่ควรรดน้ำในช่วงที่แดดแรง เพราะอาจทำให้ต้นผักชีเหี่ยวได้

5.แสงแดด: ผักชีชอบแสงแดดอ่อน ๆ ควรวางกระถางไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงต่อวัน แต่ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด

การเก็บเกี่ยวผักชี

หลังจากปลูกไปประมาณ 30-45 วัน ผักชีจะเริ่มเจริญเติบโตและมีใบเขียวสดเต็มที่ โดยใช้กรรไกรตัดใบหรือต้นผักชีใกล้ ๆ กับโคนต้น เพื่อให้รากยังคงอยู่และสามารถแตกใบใหม่ออกมาได้