ฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วม หากเป็นเพียงทางผ่านน้ำก็ดีไป แต่หากเกิดการท่วมขังของน้ำนาน ต้นไม้ต้นพืชก็จะเกิดการเสียหาย การดูแลต้นไม้หรือการฟื้นฟูต้นไม้หลังถูกน้ำท่วมจึงมีความสำคัญเพราะจะทำให้ต้นไม้ของคุณกลับมาแข็งแรง ไม่ตายได้
อาการต้นไม้ถูกน้ำท่วมขัง
1.รากขาดออกซิเจน เนื่องจากน้ำจะแทรกซึมเข้าไปตามช่องว่างของอากาศที่มีอยู่ในดิน ทำให้ส่งผลต่อการลำเลียงน้ำและแร่ธาตุต่าง ๆ ขึ้นไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของลำต้น
2.ใบเหลือง มักจะเกิดกับใบแก่หรือใบที่อยู่ส่วนโคนของกิ่ง และ มักจะพบในต้นไม้ที่ถูกน้ำท่วมขังต่อเนื่อง และนอกจากนี้ยังพบอาการใบลู่หรือห้อยลงอีกด้วย
3.อาการทิ้งใบ ดอก และผล ต้นไม้ที่ถูกน้ำท่วมจะเกิดสภาวะเครียด ส่งผลให้ต้นไม้มีการกระตุ้นให้มีการสร้างฮอร์โมนเอทธิลีนในปริมาณที่สูงกว่าปกติมาก ทำให้ต้นไม้ทิ้งดอกและผลก่อน โดยจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงจะเกือบหมดต้น
แนวทางฟื้นฟูสภาพต้นพืชหลังน้ำท่วม
1.เมื่อน้ำลดลงแล้ว แต่ดินยังเปียกหรือชุ่มน้ำอยู่ ไม่ควรเข้าไปเหยียบบริเวณโคนต้นไม้ เพราะจะทำให้รากเสียหาย อากาศแทรกเข้าไปในโครงสร้างของดินยากขึ้น
2.ถ้าต้นไม้ทรงตัวไม่ดีและทำท่าว่าจะล้ม อย่ากดดินให้แน่น หรืออย่าเติมดินเข้าไปเพิ่ม เพราะรากยังไม่สามารถหาอาหารได้ ควรหาไม้มาค้ำยันไว้กันล้มแทน
3.ในช่วง 5 วันแรกหลังน้ำลด งดการให้น้ำหรือปุ๋ย หรือยาต่างๆ หลังจากดินเริ่มหมาด จึงค่อยๆ ให้น้ำ และบำรุงพืชด้วยธาตุอาหาร โดยฉีดพ่นปุ๋ยหรือฮอร์โมนให้ทางใบ ทุกๆ 3 วัน เพราะรากพืชยังไม่สามารถดูดกินธาตุอาหารได้ตามปกติ
4.สำหรับพืชคลุมดินที่ตาย ให้ลอกขุดทิ้งไป ส่วนต้นที่พอจะรอดให้ขุดขึ้นมา นำไปพักฟื้นในกระถางปลูก
5.หากมีใบเหลือง เหี่ยว ไม่สดใส ควรตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง จะช่วยให้รากที่เสียหายได้ฟื้นฟูสภาพ เพราะไม่ต้องส่งอาหารมาเลี้ยงกิ่งและใบ และทำให้แสงแดดส่องถึงดีขึ้น ลดการเกิดโรคและแมลงซ้ำ
6.ควรปรับสภาพดินให้เป็นด่างเล็กน้อย ซึ่งเป็นสภาวะที่ไม่เหมาะกับการเกิดโรค และหากมีปัญหาของโรครากเน่า โคนเน่า ที่เกิดจากเชื้อรา ควรหาวิธีกำจัดเชื้อรา โดยใช้น้ำหมัก หรือ ไตรโคเดอมาร์ เป็นต้น
ต้นไม้ที่ถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานานอาจทำให้รากของต้นไม้ไม่สามารถหาอาหารได้ ดังนั้นหลังจากน้ำลดแล้วการฟื้นฟูสภาพต้นไม้ต้องทำอย่างเร่งด่วนและถูกวิธี จะทำให้ต้นไม้ฟื้นตัวได้เร็ว ลดโอกาสเน่าตายได้สูง